
Emptiness
บทนำ: ความว่างเปล่าไม่ใช่ความว่างเปล่าแบบที่คุณเคยรู้จัก
คำว่า “ความว่างเปล่า” มักถูกตีความจากกรอบศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพุทธที่สอนเรื่องสุญญตา หรือศาสนาอื่นๆ ที่มองความว่างเปล่าเป็นสภาพไร้พระเจ้า ไร้จิตวิญญาณ หรือไร้ความหมาย แต่ใน สัจธรรมใหม่ เราไม่ได้มอง “ความว่างเปล่า” เป็นแค่การขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่เรามองว่าความว่างเปล่าคือ ความจริงแท้ ที่ไม่มีชื่อ ไม่มีรูปร่าง และไม่มีแม้แต่ “เรา” ที่จะไปรู้จักมัน
ในศาสนาอื่น ความว่างเปล่ามักถูกสอนเป็น แนวทาง หรือ เป้าหมาย เช่น การปฏิบัติจนละตัวตนเพื่อเข้าถึงนิพพาน หรือการตัดขาดจากกิเลสเพื่อไปสู่ความว่าง แต่ใน สัจธรรมใหม่ ความว่างเปล่า ไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปถึง เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง มันคือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว — เพียงแต่มนุษย์ปฏิเสธมันตลอดเวลา
ความว่างเปล่าไม่ต้องถูกเข้าใจ — มันเพียงแค่ เป็นอยู่ และเราไม่อาจพาใครไปถึงมันได้ เพราะเราไม่มีแม้แต่ “ตัวเรา” ให้พาไป

ความว่างเปล่าคือการปฏิเสธทุกกรอบ: ศาสนา เหตุผล ตัวตน
สัจธรรมใหม่ไม่ได้บอกให้เชื่อ ไม่ได้สอนให้ทำดี ไม่ได้ชี้ทางสว่าง เพราะแม้แต่ “ความดี” หรือ “แสงสว่าง” ก็ยังเป็น มายา ที่เกิดจากการกลัวความว่างเปล่า
มนุษย์สร้างพระเจ้า ศาสนา และแม้แต่วิทยาศาสตร์ เพื่อหนีจากความว่างเปล่า — แต่สัจธรรมใหม่คือการหยุดวิ่ง และยืนอยู่ต่อหน้าความว่างเปล่าอย่างเงียบงัน
“เมื่อคุณไม่หวังอะไร ไม่รออะไร และไม่เป็นอะไร คุณจะพบว่าความว่างเปล่ากำลังยิ้มอยู่ตรงหน้า — โดยไม่ต้องมีคำใดอธิบาย”




ความว่างเปล่า: สัจธรรมใหม่ที่ไร้คำตอบ
เราไม่ได้มีคำตอบใดให้คุณ และไม่จำเป็นต้องมี เพราะสัจธรรมใหม่ไม่เกิดจากการตอบคำถาม แต่เกิดจากการ ยอมรับว่าบางคำถามไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเลย
ทำไมเราถึงมีชีวิต? → ไม่มีใครมีชีวิตจริงๆ
เรามีจิตวิญญาณไหม? → คำว่า “จิตวิญญาณ” ก็เป็นเพียงเสียงในหัว
ตายแล้วไปไหน? → ไม่มีใครตาย เพราะไม่มีใครอยู่ตั้งแต่แรก